Shock Load คืออะไร? ภาระที่มองไม่เห็น แต่อันตรายที่สุดในการยกด้วยเครน
สาระน่ารู้เครื่องจักรสงขลา, ภาคใต้

Shock Load คืออะไร? ภาระที่มองไม่เห็น แต่อันตรายที่สุดในการยกด้วยเครน

ทำความเข้าใจ Shock Load หรือแรงกระชาก ภาระที่เกิดขึ้นทันทีในการยก สาเหตุ ผลกระทบ และวิธีป้องกันอย่างมืออาชีพ โดย S.K. Kunatham Group ผู้เชี่ยวชาญรถเครนภาคใต้กว่า 30 ปี

10 นาทีS.K. Kunatham Group

ภาพประกอบบทความ

Shock Load คืออะไร? ภาระที่มองไม่เห็น แต่อันตรายที่สุดในการยกด้วยเครน - ภาพที่ 1
1/1

บทนำ: ภัยเงียบที่อาจเกิดขึ้นในทุกการยก

หลายครั้งเวลาเห็นเครนยกของ เรามักคิดว่า "ถ้าน้ำหนักไม่เกินพิกัดเครน ก็น่าจะปลอดภัยแล้ว" แต่ในความเป็นจริง ยังมีอีกปัจจัยเงียบที่อันตรายมาก คือ Shock Load หรือแรงกระชาก ที่ทำให้เครนและอุปกรณ์รับน้ำหนักหนักกว่าที่เราคิด

ชิ้นงานที่หนัก 10 ตันอาจสร้างแรงกระชากขึ้นไป 15-20 ตัน หรือมากกว่านั้น ในเสี้ยววินาที โดยที่เราไม่รู้ตัว

กว่า 30 ปีที่ S.K. Kunatham Group ทำงานยกในภาคใต้ เราเจอเคสหน้างานหลากหลายรูปแบบ สิ่งหนึ่งที่เราให้ความสำคัญมาก คือการหลีกเลี่ยง Shock Load ให้ได้มากที่สุด เพราะนี่คือหัวใจของความปลอดภัยในงานยกทุกประเภท


Shock Load คืออะไร?

คำจำกัดความ

Shock Load คือ ภาระที่เกิดขึ้นแบบกระทันหันในช่วงเวลาสั้น ๆ ทำให้ "แรงที่อุปกรณ์รับจริง" พุ่งสูงกว่าน้ำหนักของวัตถุที่ยกอยู่มาก

เปรียบเทียบให้เข้าใจง่าย

ลองนึกภาพคุณยกถังน้ำหนัก 20 กิโลกรัม:

  • ยกขึ้นช้า ๆ = ร่างกายรับแรง 20 กิโลกรัม
  • กระชากขึ้นทันที = รู้สึกหนักกว่ามาก อาจรู้สึกเหมือน 30-40 กิโลกรัม

นั่นคือ Shock Load ที่เกิดขึ้นในร่างกายคุณเอง เมื่อนำไปใช้กับเครนและอุปกรณ์ยกหนักหลายตัน ผลกระทบยิ่งอันตรายมากขึ้นเป็นทวีคูณ


ตัวอย่างสถานการณ์ Shock Load ที่เจอได้จริงในหน้างาน

1. ดึงของจากสลิงหลวม ๆ แล้วกระชากขึ้นเร็ว ๆ

สลิงอยู่ในสภาพหลวม คนขับเร่งบูม/วินช์เร็วเกิน จากสลิงหลวม → สลิงตึงแบบกระชาก = เกิด Shock Load ทันที

2. ยกของที่ติด/ฝัง/ฝืดกับพื้น

ชิ้นงานเช่น คานเหล็กวางอยู่บนพื้นดิน/คอนกรีตนานแล้ว มีสนิม/ฝืด คนขับเร่งยกแรงเพื่อให้หลุด → พอหลุดปุ๊บ โหลดดีดขึ้น = Shock Load

3. การเบรกกะทันหัน

กำลังยกขึ้นหรือลดลง แล้วเบรกแรง ๆ (หยุดแบบฉับพลัน) แรงเฉื่อยของโหลดยังไปต่อ แต่รอก/สลิงหยุด → เกิดแรงกระชากกลับ

4. โหลดแกว่งแล้วชนโครงสร้าง

เกิดจากลมแรง ยกเร็ว หรือเลื่อนเครน/รอกโดยไม่ควบคุม พอโหลดแกว่งแล้วชนอะไรบางอย่าง หรือหยุดแกว่งแบบทันที = Shock Load

5. Tandem Lift ที่ไม่ซิงค์กัน

ใช้เครน 2 คันรับงานเดียวกัน ถ้าคันหนึ่งยกขึ้นเล็กน้อย แต่อีกคันยังอยู่ตำแหน่งเดิม → แรงจะวิ่งไปลงที่คันเดียวมากผิดปกติ

ในทุกเคสนี้ น้ำหนักของชิ้นงานอาจจะ 10 ตัน แต่ "แรงที่อุปกรณ์รับจริง" อาจเด้งขึ้นไป 15–20 ตัน หรือมากกว่านั้นในเสี้ยววินาที


ทำไม Shock Load ถึงอันตรายสำหรับงานยก

1. แรงเกินจากที่คำนวณไว้ (Overload โดยไม่รู้ตัว)

ตอนออกแบบ/เลือกเครน/สลิง เราดูที่ Working Load Limit (WLL) ตาม "น้ำหนักนิ่ง" แต่พอโดน Shock Load แรงอาจเกิน WLL ทันที ทั้ง ๆ ที่น้ำหนักชิ้นงานไม่เกิน

2. ทำให้อุปกรณ์เสียหายแบบมองไม่เห็นทันที

  • ลวดสลิง: เริ่มยืดตัวผิดปกติ เส้นลวดข้างในเริ่มขาดทีละเส้น
  • Shackle / Hook / Pad eye / Lug: เกิด micro crack (รอยร้าวเล็ก ๆ)
  • วันนั้นอาจไม่ขาด แต่สะสมไปเรื่อย ๆ จน "ขาดจริง" ในอีกงานหนึ่ง

3. ทำให้ "ความปลอดภัย" ที่คิดไว้ไม่จริง

เรามักเผื่อ Safety Factor เช่น 4:1, 5:1 แต่ Shock Load แค่วินาทีเดียวสามารถเผื่อเกิน margin เหล่านี้ได้เลย

4. เสี่ยงต่อชีวิตคนหน้างานโดยตรง

  • ถ้าอุปกรณ์ขาดกลางอากาศ = โหลดตก
  • โหลดแกว่งกลับมาชนคน/โครงสร้าง
  • นี่คือสาเหตุหลักของอุบัติเหตุร้ายแรงในงานยก

จุดขาย "Zero Accident" ของ S.K. Kunatham Group ผูกกับการ "เลี่ยง Shock Load" ได้ดีมาก


สาเหตุหลักของ Shock Load ในงานเครน

1. ยกเร็วเกินไปจากจุดเริ่ม (ไม่มีการ "Take the slack")

สลิงหลวมอยู่ คนขับไม่ "เก็บระยะหลวม" ก่อน แต่ดึงขึ้นเลย จากสลิงหลวม → สลิงตึงแบบกระชาก = เกิด Shock Load ทันที

2. โหลดติด/ฝืดกับพื้นหรือติดโครงสร้าง

ตู้คอนเทนเนอร์ที่ "ฝัง" กับพื้นนิด ๆ คานเหล็กที่มีสนิม/ติดพื้น พอเร่งยกให้หลุด = Shock Load

3. การเบรกกะทันหัน

กำลังยกขึ้นหรือลดลง แล้วเบรกแรง ๆ (หยุดแบบฉับพลัน) แรงเฉื่อยของโหลดยังไปต่อ แต่รอก/สลิงหยุด → เกิดแรงกระชากกลับ

4. โหลดแกว่งมากเกินไป

  • เกิดจากลมแรง ยกเร็ว หรือเลื่อนเครน/รอกโดยไม่ควบคุม
  • พอโหลดแกว่งแล้วชนอะไรบางอย่าง หรือหยุดแกว่งแบบทันที = Shock Load

5. Tandem Lift ที่ไม่ซิงค์กัน

เครน 2 คันรับงานเดียวกัน ถ้าคันหนึ่งยกขึ้นเล็กน้อย แต่อีกคันยังอยู่ตำแหน่งเดิม → แรงจะวิ่งไปลงที่คันเดียวมากผิดปกติ


วิธีป้องกัน Shock Load ในงานยก

1. วางแผนการยก (Lifting Plan) ล่วงหน้า

  • กำหนดวิธีการยก จุดยึดสลิง อุปกรณ์ที่ใช้
  • ตรวจสอบว่ามีโอกาสโหลดติด/ฝืดกับพื้นหรือโครงสร้างไหม
  • คำนวณน้ำหนักและจุดศูนย์ถ่วงอย่างแม่นยำ

2. สั่งงานคนขับให้ "Take the slack" เสมอ

  • เก็บสลิงหลวมให้ตึงช้า ๆ ก่อน
  • ค่อยเพิ่มความเร็วหลังจากโหลดลอยขึ้นจากพื้นแล้ว
  • ยกและลดอย่างราบรื่น ไม่กระตุก

3. หลีกเลี่ยงการเบรกกะทันหัน

  • ทั้งตอนยกและตอน lowering
  • คุมคันบังคับให้ smooth ที่สุด
  • วางแผนการหยุดล่วงหน้า

4. ควบคุมการแกว่งของโหลด

  • ใช้ tagline คุม
  • หลีกเลี่ยงการหมุนรถ/เคลื่อนบูมเร็วเกินไป
  • คำนึงถึงสภาพลมและสิ่งแวดล้อม

5. ฝึกอบรมทีมงานเรื่อง Shock Load โดยเฉพาะ

  • หลายคนเคยได้ยินคำนี้ แต่ไม่เข้าใจผลกระทบจริง
  • ใช้รูป/วีดีโอเคสตัวอย่างมาอธิบาย
  • ทำความเข้าใจผลกระทบต่อความปลอดภัย

6. เลือกใช้บริษัทที่ให้ความสำคัญกับมาตรฐานการยก

ที่ S.K. Kunatham Group เราไม่ได้มองแค่ตัวเลข "น้ำหนักยกได้" บนกระดาษ แต่เราให้ความสำคัญกับ "วิธีการยก" ทุกขั้นตอน เพื่อลด Shock Load และป้องกันอุบัติเหตุให้ใกล้ศูนย์มากที่สุด


มาตรฐานการทำงานของ S.K. Kunatham Group ในการควบคุม Shock Load

✅ ทีมงานผ่านการอบรมเฉพาะด้าน

  • ผู้ควบคุมเครนเข้าใจหลักการป้องกัน Shock Load
  • ผู้ให้สัญญาณรู้จักสังเกตพฤติกรรมเสี่ยง
  • มีการ briefing ก่อนงานทุกครั้ง

✅ วางแผนการยกโดยทีมวิศวกร

สำหรับงานขนาดใหญ่ เราจะจัดทำ Lifting Plan ที่ละเอียด ครอบคลุม:

  • น้ำหนักและจุดศูนย์ถ่วงของวัตถุ
  • การกระจายน้ำหนักให้เครนและอุปกรณ์
  • ขั้นตอนการยกที่ปลอดภัย
  • การประเมินความเสี่ยงจาก Shock Load

✅ อุปกรณ์ได้มาตรฐานและตรวจสอบสม่ำเสมอ

  • สลิงและอุปกรณ์ยกผ่านการทดสอบ Load Test
  • มีใบรับรอง ปจ.2 ครบถ้วนทุกเครื่อง
  • บำรุงรักษาตามกำหนดของผู้ผลิต

✅ ระบบควบคุมคุณภาพที่เข้มงวด

  • ตรวจสอบก่อนใช้งานทุกครั้ง (Daily Check)
  • บันทึกการทำงานและปัญหาที่พบ
  • ทบทวนและปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง

ผลกระทบในระยะยาวของ Shock Load

ต่ออุปกรณ์:

  1. ลวดสลิง: เสื่อมสภาพเร็วผิดปกติ ต้องเปลี่ยนบ่อยขึ้น
  2. Shackle/Hook: เกิดรอยร้าวที่มองไม่เห็น อันตรายในระยะยาว
  3. โครงสร้างเครน: ความเครียดสะสมที่โครงสร้างและจุดเชื่อม
  4. ระบบไฮดรอลิก: แรงกระแทกทำให้ซีลและท่อรั่วง่ายขึ้น

ต่อต้นทุน:

  • ค่าซ่อมแซมและเปลี่ยนอุปกรณ์เพิ่มขึ้น
  • เวลาหยุดทำงาน (Downtime) เพิ่มขึ้น
  • ต้นทุนประกันและค่าเสี่ยงภัยสูงขึ้น

ต่อความปลอดภัย:

  • เพิ่มโอกาสเกิดอุบัติเหตุร้ายแรง
  • เสี่ยงต่อชีวิตคนงานและผู้ที่อยู่ในพื้นที่
  • สร้างความกังวลและความไม่มั่นใจในทีมงาน

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ Shock Load

Q: วัดแรง Shock Load ได้อย่างไร?

A: ในภาคสนาม ยากที่จะวัดแรงจริง แต่สามารถป้องกันได้ด้วยการควบคุมพฤติกรรมการยกให้ smooth เครื่องมือวัดแบบ Load Cell สมัยใหม่สามารถบันทึก Peak Load ได้

Q: Shock Load ต่างจาก Overload อย่างไร?

A:

  • Overload = ยกของที่หนักเกินพิกัดตลอดเวลา
  • Shock Load = แรงพุ่งสูงชั่วครู่ แม้น้ำหนักจริงไม่เกิน ทั้งสองอันตราย แต่ Shock Load อันตรายกว่าเพราะ "มองไม่เห็น"

Q: ถ้าเกิด Shock Load ต้องทำอย่างไร?

A:

  1. หยุดการยกทันที
  2. ตรวจสอบอุปกรณ์ทั้งหมด โดยเฉพาะสลิง
  3. บันทึกเหตุการณ์และสาเหตุ
  4. ประเมินความเสียหายก่อนใช้งานต่อ

Q: มีอุปกรณ์ป้องกัน Shock Load ไหม?

A: มี เช่น Shock Absorber หรือ Spring Damper แต่การป้องกันที่ดีที่สุดคือ "การยกอย่างถูกวิธี"

Q: Shock Load เกิดได้กับทุกประเภทเครนไหม?

A: ใช่ ไม่ว่าจะเป็น Mobile Crane, Tower Crane, Overhead Crane หรือแม้แต่รอกมือก็เกิดได้


สรุป: ความปลอดภัยเริ่มต้นจากความเข้าใจ

Shock Load เป็น "ศัตรูเงียบ" ของงานยก แต่สามารถควบคุมได้ด้วย:

  1. การวางแผนที่ดี - คำนวณและเตรียมการล่วงหน้า
  2. พฤติกรรมหน้างานที่ถูกต้อง - ยกช้า smooth ไม่กระตุก
  3. ทีมงานมืออาชีพ - เข้าใจและให้ความสำคัญ
  4. อุปกรณ์ที่ได้มาตรฐาน - พร้อมใช้และตรวจสอบสม่ำเสมอ

ที่ S.K. Kunatham Group เรามุ่งมั่นสู่เป้าหมาย Zero Accident ด้วยการควบคุมทุกปัจจัยเสี่ยง รวมถึง Shock Load มากว่า 30 ปี เพราะเราเชื่อว่า "ไม่มีงานไหนสำคัญกว่าความปลอดภัยของทุกคน"

แม้เราจะมีการตรวจสอบ ปจ.2 ตามมาตรฐาน และทำ Proof Load Test อยู่สม่ำเสมอ แต่ถ้าในหน้างานมีพฤติกรรมเสี่ยงเรื่อง Shock Load อยู่ตลอด ความปลอดภัยก็ยังไม่ 100%


ปรึกษาเราเกี่ยวกับงานยกที่ปลอดภัย

ถ้าคุณมีงานยกโครงสร้างขนาดใหญ่ หรืองานที่ต้องการมาตรฐานความปลอดภัยสูง เช่น งานโรงงาน, งานท่าเรือ, งานน้ำมันและก๊าซ ให้ทีมวิศวกรและเครนโอเปอเรเตอร์ของ S.K. Kunatham Group ช่วยวางแผนการยกให้คุณ

📞 ติดต่อเรา

S.K. Kunatham Group Co., Ltd. ผู้นำด้านบริการเช่ารถเครนภาคใต้ ครบ จบ ปลอดภัย 100%

📱 LINE: @skgroup ☎️ โทร: 074-333-074 🌐 เว็บไซต์: www.skkunathamgroup.com

🏢 พื้นที่ให้บริการ

สาขาสงขลา - ครอบคลุมภาคใต้ฝั่งอ่าวไทย

  • สงขลา, หาดใหญ่, สตูล, พัทลุง
  • นครศรีธรรมราช, สุราษฎร์ธานี
  • ปัตตานี, ยะลา, นราธิวาส

สาขาระนอง - ครอบคลุมภาคใต้ฝั่งอันดามัน

  • ระนอง, พังงา, ภูเก็ต
  • กระบี่, ตรัง
  • ชุมพร (บางส่วน)

🎁 พิเศษ! บริการประเมินหน้างานฟรี

  • สำรวจพื้นที่ฟรี
  • ประเมินความเป็นไปได้และความเสี่ยง
  • จัดทำแผนการยกเบื้องต้น
  • เสนอราคาที่เหมาะสม

ปรึกษาฟรี | ประเมินหน้างานฟรี | ใบเสนอราคาภายใน 24 ชม.


บทความที่เกี่ยวข้อง


ข้อมูลในบทความนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้ความรู้เกี่ยวกับความปลอดภัยในงานยก การปฏิบัติงานจริงควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญและปฏิบัติตามกฎหมายและมาตรฐานความปลอดภัยที่เกี่ยวข้อง

แท็ก

#Shock Load#แรงกระชาก#ความปลอดภัย#การยก#เครน#รอก#สลิง#Zero Accident

ข้อมูลบทความ

หมวดหมู่สาระน่ารู้เครื่องจักร
สถานที่สงขลา, ภาคใต้
วันที่2568-11-01

💬สนใจบริการของเรา?

ติดต่อเราเพื่อขอคำปรึกษาและใบเสนอราคาฟรี

ขอใบเสนอราคา
ทีมงาน เอส.เค.คุณธรรม กรุ๊ป พร้อมให้บริการ

บริการครบวงจรมาตรฐานระดับสากล

ให้ทีมผู้เชี่ยวชาญของเราช่วยวางแผนและให้คำปรึกษาฟรี เพื่อให้ทุกงานของคุณสำเร็จลุล่วงอย่างราบรื่นและปลอดภัยสูงสุด

ขอใบเสนอราคาฟรี! ตอบใน 1 ชั่วโมง
ติดต่อเราผ่าน Line Official เพื่อขอใบเสนอราคาฟรี ตอบภายใน 1 ชั่วโมง