
Showcase: ยกตู้คอนเทนเนอร์ลงเรือส่งออก ณ ท่าเรือเซาเทิร์น สงขลา
เบื้องหลังภารกิจยกและจัดวางตู้คอนเทนเนอร์ลงเรือส่งออกท่ามกลางคลื่นลม ณ ท่าเรือเซาเทิร์น จังหวัดสงขลา ด้วยรถเครน Liebherr LTM1300 ขนาด 300 ตัน และทีมงานมืออาชีพ 30 ปี Zero Accident
ภาพถ่ายผลงาน

ภูมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของห่วงโซ่การค้าโลก
เอส.เค.คุณธรรม กรุ๊ป มีความภูมิใจอย่างยิ่งที่ได้เป็นส่วนสำคัญในห่วงโซ่การส่งออกของประเทศไทย ด้วยภารกิจล่าสุดที่ท้าทายและสร้างความประทับใจ ณ ท่าเรือเซาเทิร์น (Southern Port) จังหวัดสงขลา ซึ่งเป็นหนึ่งในประตูการค้าทางทะเลที่สำคัญของภาคใต้และประเทศไทย
เราได้รับความไว้วางใจจากลูกค้าคนสำคัญให้เป็นผู้รับผิดชอบ ยกและจัดวางตู้คอนเทนเนอร์ (Shipping Containers) ลงบนเรือสินค้าสำหรับการส่งออก ซึ่งเป็นภารกิจที่ต้องการความเชี่ยวชาญเฉพาะทาง ประสบการณ์สูง และความแม่นยำที่ไม่มีที่ผิดพลาด เพราะทุกตู้คอนเทนเนอร์ล้วนบรรทุกสินค้ามูลค่าสูงที่รอการส่งมอบไปยังลูกค้าทั่วโลก
ภารกิจครั้งนี้ไม่เพียงแต่ต้องการกำลังยกขนาดใหญ่จาก รถเครน Liebherr LTM1300 ขนาด 300 ตัน ของเราเท่านั้น แต่ยังต้องเผชิญกับความท้าทายพิเศษ นั่นคือ "การยกของหนักลงบนเรือที่โคลงตามคลื่นลม" ซึ่งเป็นการทดสอบความสามารถที่แท้จริงของทั้งคนและเครื่องจักร
ความท้าทาย: เมื่อเป้าหมายไม่อยู่นิ่ง
การยกตู้คอนเทนเนอร์ลงเรือไม่ใช่แค่การยกสิ่งของหนักๆ ลงไปวางบนพื้นที่คงที่ แต่เป็น "การยกของหนักไปวางบนพื้นที่เคลื่อนไหว" ที่ต้องเผชิญกับปัจจัยธรรมชาติที่เปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา ความท้าทายหลักของงานนี้มีดังนี้:
1. เรือที่โคลงไปมาตามคลื่นและกระแสน้ำ (Ship Movement)
แม้เรือจะจอดเทียบท่าแล้ว แต่ด้วยสภาพทะเลและกระแสน้ำในบริเวณท่าเรือ ตัวเรือจะมีการเคลื่อนไหว (Heaving, Rolling, Pitching) เล็กน้อยอยู่เสมอ ซึ่งหมายความว่าจุดที่เราต้องวางตู้คอนเทนเนอร์นั้น "ไม่อยู่นิ่ง" ผู้ควบคุมเครนจึงต้องใช้ประสบการณ์และสัญชาตญาณในการจับจังหวะ เพื่อให้สามารถวางตู้ลงได้อย่างแม่นยำและปลอดภัย
2. สภาพลมที่แปรปรวน (Wind Factor)
ตู้คอนเทนเนอร์มีพื้นที่หน้าตัดขนาดใหญ่ ทำให้ได้รับแรงต้านจากลมได้มาก โดยเฉพาะในพื้นที่ท่าเรือเปิดโล่งที่ลมแรง การควบคุมตู้คอนเทนเนอร์ที่แกว่งไปมาด้วยลมให้กลับมาอยู่ในแนวที่ต้องการ ต้องอาศัยความชำนาญและเทคนิคเฉพาะทาง
3. ความแม่นยำในการวางตำแหน่ง (Precision Placement)
บนเรือสินค้า ตู้คอนเทนเนอร์แต่ละตู้จะต้องถูกวางในตำแหน่งที่กำหนดไว้อย่างแม่นยำ เพื่อให้สามารถล็อคและยึดติดกับโครงสร้างเรือได้อย่างมั่นคง ความผิดพลาดแม้เพียงเล็กน้อยอาจทำให้ไม่สามารถยึดตู้ได้ และอาจส่งผลต่อความปลอดภัยในการเดินเรือ
4. ความกดดันด้านเวลา (Time Constraint)
เรือสินค้ามีตารางเวลาเข้า-ออกท่าที่เข้มงวด เพราะเกี่ยวข้องกับเส้นทางการเดินเรือระหว่างประเทศ การล่าช้าแม้เพียงชั่วโมงเดียวอาจส่งผลกระทบต่อต้นทุนและกำหนดการจัดส่งทั่วโลก ดังนั้นการทำงานจึงต้องรวดเร็วแต่ยังคงความปลอดภัยไว้ได้ในเวลาเดียวกัน
เบื้องหลังความสำเร็จ: เทคโนโลยี ประสบการณ์ และความเป็นมืออาชีพ
ความสำเร็จของภารกิจที่ท้าทายนี้มาจากการผสมผสานของหลายปัจจัยสำคัญ ที่ทำให้ เอส.เค.คุณธรรม กรุ๊ป โดดเด่นกว่าผู้ให้บริการทั่วไป
1. รถเครน Liebherr LTM1300: เทคโนโลยีระดับโลก
เราได้เลือกใช้ รถเครน Liebherr LTM1300 ขนาด 300 ตัน ซึ่งเป็นรถเครนเคลื่อนที่ระดับพรีเมียมจากเยอรมนี สำหรับภารกิจนี้โดยเฉพาะ ด้วยคุณสมบัติพิเศษที่เหมาะกับงานท่าเรือ:
- ระบบควบคุมเสถียรภาพอัตโนมัติ (VarioBase): ช่วยให้เครนสามารถทำงานได้อย่างมั่นคงแม้ในสภาพพื้นที่ที่ไม่สมบูรณ์แบบ
- ระบบควบคุมที่ไวต่อการตอบสนอง: ช่วยให้ผู้ควบคุมสามารถปรับการเคลื่อนไหวได้อย่างละเอียดอ่อน เพื่อจับจังหวะการวางตู้บนเรือที่เคลื่อนไหว
- ระบบป้องกันการโอเวอร์โหลด: เพื่อความปลอดภัยสูงสุดในทุกการยก
- แขนเครนยาวและยืดหยุ่น: ช่วยให้เข้าถึงทุกจุดบนเรือได้สะดวกและปลอดภัย
2. ทีมงานมืออาชีพ: 30 ปี Zero Accident
หัวใจที่แท้จริงของความสำเร็จคือ "คน" ทีมงานของเราประกอบด้วยผู้เชี่ยวชาญที่ผ่านการอบรมและมีประสบการณ์เฉพาะทางด้าน Marine Lifting (การยกสินค้าลงเรือ):
-
ผู้ควบคุมเครน (Crane Operator) ที่มีใบรับรองระดับสากล และมีประสบการณ์เฉพาะด้านการยกสินค้าลงเรือมากกว่า 15 ปี สามารถอ่านการเคลื่อนไหวของเรือและจับจังหวะในการวางสินค้าได้อย่างแม่นยำ
-
Rigger (ผู้ยึดเกาะวัสดุ) ที่เชี่ยวชาญในการเลือกและติดตั้งอุปกรณ์การยกที่เหมาะสม พร้อมตรวจสอบความแข็งแรงของสลิงและ Shackle ทุกครั้งก่อนยก
-
Signal Man (ผู้ให้สัญญาณ) ที่สื่อสารกับทีมงานบนเรือและผู้ควบคุมเครนอย่างชัดเจนและมีประสิทธิภาพ เพื่อให้การวางตู้เป็นไปตามแผนที่วางไว้
-
Supervisor (หัวหน้างาน) ที่คอยดูแลภาพรวมและตัดสินใจเมื่อเกิดสถานการณ์ที่ไม่คาดคิด
3. การวางแผนและมาตรฐานความปลอดภัยระดับสากล
ก่อนการปฏิบัติงานจริง เราได้ทำงานร่วมกับทีมงานท่าเรือและเจ้าของเรือเพื่อ:
- ศึกษา Lifting Plan และ Ship Loading Plan เพื่อทำความเข้าใจตำแหน่งการวางตู้แต่ละตู้อย่างละเอียด
- ประชุมความปลอดภัย (Safety Briefing) ร่วมกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง
- ตรวจสอบสภาพอากาศ และรอช่วงเวลาที่เหมาะสมสำหรับการยก
- ปฏิบัติตามมาตรฐาน Marine Lifting และข้อกำหนดของ Port Authority อย่างเคร่งครัด
4. การสื่อสารที่ชัดเจนและการทำงานเป็นทีม
การยกสินค้าลงเรือต้องอาศัยการทำงานประสานกันระหว่างหลายฝ่าย:
- ทีมงานเครนบนท่า
- ทีมงานบนเรือที่คอยรับและยึดตู้
- เจ้าหน้าที่ท่าเรือที่ควบคุมการจราจร
- คนขับรถบรรทุกที่นำตู้คอนเทนเนอร์เข้ามา
ทุกฝ่ายต้องสื่อสารผ่านวิทยุสื่อสาร (Radio Communication) อย่างชัดเจนและทันท่วงทีตลอดเวลา ซึ่งทีมงานของเราได้แสดงความเป็นมืออาชีพในการประสานงานได้อย่างยอดเยี่ยม
ผลลัพธ์: Zero Accident, 100% Success
ด้วยการเตรียมการที่รอบคอบ เครื่องจักรที่ทันสมัย และทีมงานที่เป็นมืออาชีพ ภารกิจการยกตู้คอนเทนเนอร์ลงเรือทุกตู้จึงสำเร็จลุล่วงด้วยความปลอดภัย 100% ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ และตามกำหนดเวลาของตารางเดินเรือ
บันทึกความสำเร็จ:
- ✅ ยกและจัดวางตู้คอนเทนเนอร์ลงเรือสำเร็จทุกตู้
- ✅ Zero Accident ตลอดการปฏิบัติงาน (ต่อเนื่องมากกว่า 30 ปี)
- ✅ ปฏิบัติงานเสร็จตามกำหนดเวลาของตารางเรือ
- ✅ ได้รับคำชมเชยจากลูกค้าและเจ้าหน้าที่ท่าเรือ
ความสำเร็จนี้เป็นเครื่องยืนยันว่า เอส.เค.คุณธรรม กรุ๊ป ไม่ได้เป็นเพียงผู้ให้บริการรถเครนทั่วไป แต่เป็น "พันธมิตรที่เชื่อถือได้สำหรับงานยกระดับมืออาชีพ" ที่พร้อมรับมือกับงานท้าทายในทุกสถานการณ์
ทำไมต้องเลือก S.K. Kunatham Group สำหรับงานยกสินค้าลงเรือ?
หากคุณเป็นผู้ประกอบการด้านการส่งออก-นำเข้า หรือธุรกิจโลจิสติกส์ที่กำลังมองหาพันธมิตรด้านการยกสินค้าลงเรือที่เชื่อถือได้ นี่คือเหตุผลที่คุณควรเลือกเรา:
✅ ประสบการณ์กว่า 30 ปี Zero Accident
เราภูมิใจที่สามารถรักษาสถิติ "ไม่มีอุบัติเหตุร้ายแรง" มาตลอด 30 ปี ซึ่งเป็นเครื่องพิสูจน์ถึงความเป็นมืออาชีพและความใส่ใจในเรื่องความปลอดภัยของเรา
✅ อุปกรณ์ระดับโลกจากแบรนด์ชั้นนำ
รถเครนของเราเป็นรุ่นใหม่จากผู้ผลิตชั้นนำระดับโลกอย่าง Liebherr, TADANO, และ DEMAG พร้อมได้รับการบำรุงรักษาอย่างสม่ำเสมอ
✅ ทีมงานผ่านมาตรฐานสากล
ผู้ควบคุมเครนและทีมงานของเราทุกคนมีใบรับรองมาตรฐานสากล (Certified) และผ่านการอบรมด้านความปลอดภัยอย่างต่อเนื่อง
✅ บริการครบวงจร 24/7
เรามีทีมงานประจำการพร้อมให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง รองรับการทำงานในทุกช่วงเวลาตามความต้องการของลูกค้า
✅ ครอบคลุมทั่วภาคใต้
เรามีสาขาในจังหวัดสงขลา, ระนอง และพื้นที่สำคัญๆ ทั่วภาคใต้ ทำให้สามารถเข้าถึงหน้างานได้รวดเร็ว
✅ ราคาโปร่งใส มีมาตรฐาน
เรามีการคำนวณราคาที่ชัดเจน โปร่งใส และยุติธรรม พร้อมให้คำปรึกษาฟรี
ขอขอบคุณในความไว้วางใจ
บริษัท เอส.เค.คุณธรรม กรุ๊ป ขอขอบพระคุณลูกค้าคนสำคัญทุกท่านที่ไว้วางใจและมอบหมายงานสำคัญให้เราดูแลมาโดยตลอด โดยเฉพาะอย่างยิ่งลูกค้าจากงานนี้ที่ให้เราได้เป็นส่วนหนึ่งในห่วงโซ่การส่งออกที่สำคัญของประเทศ
ขอขอบคุณ ท่าเรือเซาเทิร์น (Southern Port) และเจ้าหน้าที่ทุกท่านที่ให้การต้อนรับและอำนวยความสะดวกในการปฏิบัติงาน
และที่ขาดไม่ได้เลยคือ ขอขอบคุณทีมงาน S.K. Kunatham Group ทุกคนที่ทุ่มเทแรงกายแรงใจ ทำงานอย่างมืออาชีพ และยึดมั่นในความปลอดภัยเป็นอันดับหนึ่งเสมอมา จนสร้างผลงานที่น่าภาคภูมิใจนี้ให้สำเร็จ
ต้องการบริการเช่ารถเครนสำหรับงานท่าเรือหรืองานยกสินค้าลงเรือ?
หากคุณกำลังมองหาผู้ให้บริการที่เชื่อถือได้สำหรับ:
- ยกสินค้าลงเรือสำหรับการส่งออก-นำเข้า
- ยกและขนย้ายสินค้าในพื้นที่ท่าเรือ
- บริการเช่ารถเครนสำหรับงานโลจิสติกส์
- งานยกที่ต้องการความแม่นยำและความปลอดภัยสูง
เอส.เค.คุณธรรม กรุ๊ป พร้อมให้คำปรึกษาและบริการครับ!
📞 โทร: 074-333-074 💚 Line: @skgroup 🌐 Website: www.skkuanatham.com
เราพร้อมขับเคลื่อนความสำเร็จของคุณด้วยมาตรฐานระดับสากล
#SKKunathamGroup #WeMoveWhatOthersCant #เช่ารถเครน #บริการรถเครนให้เช่า #รถเครนสงขลา #รถเครนภาคใต้ #เครน300ตัน #HeavyLifting #ท่าเรือเซาเทิร์น #ท่าเรือสงขลา #ยกตู้คอนเทนเนอร์ #ส่งออก #โลจิสติกส์ #ZeroAccident #LiebherrCrane #MarineLifting #ContainerLifting #สงขลา
ข้อมูลผลงาน
ติดตามข่าวสารและติดต่อเรา
อยากเห็นผลงานเพิ่มเติมหรือต้องการปรึกษาโครงการ? ติดตามเราและติดต่อได้ทุกช่องทาง

บริการครบวงจรมาตรฐานระดับสากล
ให้ทีมผู้เชี่ยวชาญของเราช่วยวางแผนและให้คำปรึกษาฟรี เพื่อให้ทุกงานของคุณสำเร็จลุล่วงอย่างราบรื่นและปลอดภัยสูงสุด